" เมืองแห่งความกรุณา " 

สรุปประเด็นจากเวทีเสวนา

ผู้เข้าร่วมเสวนา

ผู้ดำเนินรายการ คุณวิชญา โมฬีชาติ ทีมขะไจ๋

เหตุและวิธีการขับเคลื่อนงานชุมชนกรุณา/เมืองกรุณาของแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน

โดยทาง อบต.ดอนแก้วเอง เริ่มจากการที่มีต้นทุนของชุมชน เป็นการใช้วัฒนธรรมจิตอาสาในการดูแลชุมชน อีกทั้งยังเป็นชุมชนกึ่งเมืองกึ่งชนบท วิถีความเป็นชุมชน ความเอื้ออาทรกันยังคงอยู่ การทำงานจิตอาสานั้น มีการสร้างความเข้มแข็งให้กับจิตอาสา เกิดการบ่มเพาะการดูแลซึ่งกันและกันของคนในชุมชน ซึ่งช่วยให้เกิดความเข้าใจ แก้ไขและจัดการปัญหาต่างๆได้โดยชุมชน ยกตัวอย่างสถานการณ์ COVID-19 รวมถึงมีนโยบาย ดอนแก้ว ตำบลแห่งสุขภาวะ ทั้งสุขภาวะทางกาย ทางจิต ทางสังคม และทางปัญญา เกิดหลักสูตรการเรียนรู้ให้กับคนในชุมชนถึง 3 หลักสูตร ได้แก่

บุญศิริ ศรียอด
วิชญา โมฬีชาติ
กิติศักดิ์ แก้วนิ่ม
เจนจิรา โลชา

มีการถ่ายทอดวิธีการทำงานให้เพื่อน ๆในตำบลอื่น ๆ เกิดเครือข่ายชุมชนสุขภาวะ มีสมุดอุ่นใจหรือเครื่องมือเพื่อการอยู่และตายดีอื่น ๆ ที่คนในชุมชนออกแบบร่วมกัน โดยทุกฝ่าย ทุกหน่วยงานในองค์กรและนอกองค์กร ทั้งอาสาสมัครและส่วนต่าง ๆ ของชุมชน ต่างมีส่วนร่วมในการทำงานดูแลประชาชนให้ครบวงจร แม้จะแบ่งกันรับผิดชอบการทำงาน แต่ก็มีการวางเป้าหมายร่วมกัน

ส่วนพื้นที่จังหวัดน่านนั้น มีต้นทุนจากการสานสัมพันธ์ของเครือข่ายชุมชน ทางร.พ.ร่วมทำงานกับชุมชน อย่างแนบแน่น มีความเข้มแข็ง พึ่งพาอาศัยกันมาตลอด ดูแลสุขภาพกันตั้งแต่ก่อนเกิดจนถึงวาระสุดท้าย ทั้งนี้การทำงานจริงจังมากขึ้น เมื่อมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวมาทำงานโดยใช้แนวคิดเวชศาสตร์ครอบครัว มาทำงานกับชุมชน รวมถึงนายกเทศมนตรีมีนโยบายเมืองน่าน เมืองแห่งคนอายุยืน ซึ่งทาง อปท. ก็ขอความร่วมมือ ทำงานกับทาง ร.พ.  น่าน นำมาสู่การวางนโยบายที่สนับสนุนให้คนอายุยืน เมืองปลอดภัย คนสามารถไปถึงอายุขัยเฉลี่ยที่ตั้งไว้ โดยคนที่อายุยืนแบบสุขภาพดี และได้ตายดีด้วย โดยการทำงานเรื่องระยะท้าย “อยู่สบาย จากไปอย่างสงบ” ขยายความคิดไปยังผู้นำชุมชน อสม. ชมรมผู้สูงอายุ คนที่เป็นแกนนำ ขับเคลื่อนชุมชน ขยายแนวคิดไปเรื่อยๆไปยังบุคลากรสุขภาพ พระสงฆ์ เน้นประเด็นสำคัญ คือ ความเข้าใจเรื่องการดูแลประคับประคอง การดูแลผู้ป่วยระยะท้ายที่ถูกต้อง มีการสนับสนุนดูแลความสุขสบายในช่วงท้ายตามเจตนารมย์ของผู้ป่วย ทำให้ประชาชนมั่นใจว่า ร.พ.ยังดูแลจนกว่าจะถึงวาระท้าย และเห็นความสำคัญของการวางแผนดูแลล่วงหน้า เมื่อมีการแสดงเจตจำนงแล้วก็มีการบันทึกข้อมูลและนำไปใช้ในการรักษา การดูแลช่วงท้ายใน ร.พ.ด้วย

      ทีมขะไจ๋ เป็นกลุ่มคนที่สนใจเรื่องชีวิตและความตาย อยากทำให้ชุมชนที่เราอยู่เอื้อต่อการอยู่และตายดี ทาง Peaceful Death ชวนมาทำงานด้วยความแนวคิดชุมชนกรุณาฯ ทดลองทำในพื้นที่ของตัวเองบนแนวคิดที่ว่า เราเองมีโอกาสอยู่ในทั้งบทบาทผู้ป่วย ผู้ดูแล คนตาย คนที่สูญเสีย ทำเพื่อสนับสนุนให้คนเข้าถึงสิทธิ์ที่ควรจะได้รับทั้งการรักษาพยาบาล การดูแลสุขภาพ การดูแลช่วงท้ายของชีวิต หรืออื่นๆจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลดความโดดเดี่ยวของคนเมื่อต้องเผชิญกับความเจ็บป่วย ความตาย ฟื้นศักยภาพของชุมชนในการดูแลกัน ชวนคนในชุมชนมาเรียนรู้เครื่องมือและนำไปใช้งาน เชื่อมการทำงานกับเครือข่ายเดิมที่ตนมี เป็นผู้ประสานงาน สื่อสาร ไปยังหน่วยงาน ผู้คนที่สนับสนุน ใช้ทั้งองค์ความรู้ เครื่องมือของ Peaceful Death ในการทำงานแหละขยายผลการทำงานไปยังคนกลุ่มต่างๆมากขึ้น เช่น การทำงานกับเด็กและเยาวชน มีการทำงานชุมชนกรุณาออนไลน์ การประยุกต์ใช้เครื่องมือของ Peaceful Death มาดูแลใจกัน มาทำกิจกรรมในช่องทางออนไลน์


ปัจจัยที่เอื้ออำนวยให้งานสำเร็จ



ก้าวต่อไปในการทำงาน